หลังจากอาหารเช้าง่ายๆที่ร้านค้าหน้าทางเข้าที่ทำการอุทยาน ผมก็กลับเข้ามาเที่ยวถ้ำธารลอดกัน แต่เนื่องจากเส้นทางการเดินเท้าศึกษาธรรมชาติเข้าไปภายในถ้ำธารลอดนั้นไกลมากพอสมควร พ่อกับแม่และหลานสาวของผมคงไปด้วยไม่ไหว เราจึงตกลงกันว่าผมจะเดินเข้าไปคนเดียว ส่วนคนอื่นจะรออยู่ด้านนอกจนกว่าผมจะกลับมา
ตั้งกล้องถ่ายรูปที่หน้าปากถ้ำธารลอดน้อย ๙.๒๕ น. |
ภาพความงามของหินงอกหินย้อยภายในถ้ำธารลอดน้อย |
ถ้ำธารลอดน้อยเป็นถ้ำที่เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำที่ไหลออกมาจากภูเขาหิน หน้าปากถ้ำที่เป็นลำธารไหลออกมา ตรงนั้นจะมีหาดทรายพอให้เด็กๆเล่นน้ำได้ และสามารถเอารถยนต์เข้ามาเกือบถึงหน้าถ้ำได้เลย(ถ้าคนไม่เยอะ) ก่อนเข้าสู่ภายในถ้ำจะมีด่านตรวจไม่ให้เราพกขวดพลาสติกและของที่จะเป็นขยะได้เข้าไป แล้วให้เราเซ็นต์ชื่อไว้พร้อมระบุเวลาเข้า (๙.๑๕ น.) ผมหยุดไหว้ศาลเพียงตาใกล้ๆกันแล้วเข้าสู่ถ้ำธารลอดน้อย ทางเข้าถ้ำต้องก้มสักหน่อยแล้วลอดเข้าสู่โถงด้านใน มีทางเดินคอนกรีตลัดเลาะไปตามธารน้ำในถ้ำที่เขาเดินไฟไว้ให้เราชมความงามของหินงอกหินย้อยได้สะดวก บรรยากาศภายในถ้ำเย็นสบายทำให้เดินชมความงามได้อย่างเพลิดเพลิน ผมสะดุดตากับหินก้อนหนึ่งที่ดูคล้ายกับพระคเณศเอนองค์ตะเคงอยู่ แม้จะมีป้ายบอกว่าหินเต่าแต่ผมมีความรู้สึกว่าเหมือนพระคเณศมากกว่าเป็นไหนๆ
หินรูปคล้ายองค์พระคเณศภายในน้ำธารลอดน้อย |
......................................
น้ำตกเล็กๆระหว่างทาง |
ดอกไม้กับมอสบนโขดหิน ที่น้ำตกใหญ่ชั้นที่สอง |
สุดทางบันไดสูงชันเป็นเราต้องไต่ขึ้นไปบนทางเดินที่มีก้อนหินและแขนงของลำธารที่ไหลผ่าน แล้วลอดเข้าไปอุโมงค์ที่ปกคลุมด้วยพุ่มไม้ จากที่นี่เสียงน้ำตกดังก้องทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะ ไม่นานนักผมก็มาถึงน้ำตกชั้นที่สอง พี่สองคนที่เดินนำหน้าผมขึ้นมาตั้งแต่ปากถ้ำธารลอดน้อยนั่งพักอยู่บนก้อนหินริมธารน้ำตกส่งยิ้มและกล่าวทักทาย ผมขึ้นไปนั่งพักที่น้ำตกนานสักหน่อยเพราะไอเย็นของละอองน้ำช่วยทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก
เพื่อนร่วมเดินทางระหว่างบันไดจากน้ำตกชั้นที่สอง |
ผมเดินขึ้นบันไดไม้ที่สูงชันต่อไปได้สักครึ่งทางก็ต้องหยุดพักอีกครั้ง พี่สองคนเดินตามขึ้นมาทันผมแล้วเราก็พากันเดินไปนั่งพักใต้เงาชะง่อนหินผาบนไหล่เขา จากตรงนี้ลมเย็นสบายมองเห็นทิวทัศน์ของเวิ้งเขาที่เราเดินผ่านมา นั่งสักพักผมก็ขอเดินล่วงหน้ามา
จากจุดที่เรานั่งพักเป็นทางลาดลงไปในหุบเขาหินที่มีลักษณะเป็นโซกและมีลำธารไหลผ่านออกมา ผนังผาทั้งสองข้างเขียวชอุ่มไปด้วยต้นไม้พวกมอส เฟริ์น บางต้นก็มีดอกกะจิดริด เลยออกไปไม่ไกลผมมองเห็นปากถ้ำธารลอดใหญ่เหมือนช่องประตูขนาดมหึมาตรงหน้า
ถายในถ้ำธารลอดใหญ่มีลานกว้างๆและแท่นสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป เจ้าหน้าที่ของอุทยานคอยเฝ้าสังเกตการณ์และดูแลนักท่องเที่ยวอยู่ที่นี่ เดินลงจากลานภายในถ้ำก็จะพบกับลำธารที่ไหลผ่านช่องผาออกไปตามทางที่เราผ่านมา จากตรงนี้มีนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มที่เดินสวนทางจากทางนี้ลงไป เพราะอีกด้านของถ้ำเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นสำนักสงฆ์ที่ตั้งอยู่กลางป่า แต่จะมีทางลาดยางเข้ามาถึงจากอีกฟากเขา ผมเดินผ่านถ้ำธารลอดใหญ่เข้าไปยังเขตป่าชื้นที่เต็มไปด้วยต้นไม้จำพวกจาก บรรยากาศค่อนข้างมืดครึ้มเพราะต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านปกคลุมอยู่ด้านบน ผมยังคงเดินตามแนวลำธารไปจนกระทั่งมีสะพานข้ามลำธารไปยังเขตสำนักสงฆ์ที่ดูสะอาดตา
รอยเลื้อยพญานาค เกิดจากน้ำหยดน้อยๆที่หยดลงมาจากบนเพดานถ้ำ ทำให้เกิดเป็นรอยบนหินด้านล่างที่มีลักษณะเหมือนเกล็ดของงู ส่งผลต่อ ความเชื่อและตำนานเกี่ยวกับพญานาคต่อถ้ำแห่งนี้ |
ผมเข้าไปสนทนากับพระสงฆ์รูปหนึ่งและแม่ชีสองท่านเพื่อขอน้ำดื่มแก้กระหาย ท่านก็เมตตาจัดแจงให้ ความรู้สึกของผมเหมือนได้รับการดูแลหลังจากผ่านพ้นหนทางไกล นึกดูไปก็เหมือนเวลาที่เจอปัญหาแล้วได้รับการปลอบประโลมและหยุดพัก
ทางเดินจากสำนักสงฆ์เพื่อไปสู่ยอดผา |
ผมเดินขึ้นไปจนถึงโพรงเหนือเพดานถ้ำ ที่เป็นปากปล่องทะลุลงไปยังลานกว้างของถ้ำธารลอดใหญ่ จากตรงนี้ผมยกมือไหว้พระพุทธรูปไม้สององค์จากตรงนี้อีกครั้ง เดินต่อไปอีกนิดเดียวก็มาถึงทางแยกมีป้ายบอกทางหักๆบอกว่าจุดชมวิวไปทางขวา ด้านบนนั้นมีลานปลูกต้นไผ่ย่อมๆ มีชะง่อนหินอยู่ริมหน้าผาพอให้ปีนป่ายขึ้นไปดูทิวทัศน์ที่อยู่ไกลออกไป
ต้นไม้เหลืองริมลำธารใกล้กับปากถ้ำธารลอดใหญ่ ผมสอบถามแล้วไม่ได้ความว่า ต้นไม้นี้ชื่อว่าต้นอะไร แต่ได้คำตอบว่าเป้นจังหวะที่ดีที่ได้มาเห็นต้นไม้ต้นนี้ เปลี่ยนสีใบเป็นสีเหลืองทั้งต้น |
หลังจากลงจากยอดเขาผมเข้าไปกราบพระในสำนักสงฆ์แล้วเดินมาดื่มน้ำและร่ำลาพระท่านกับแม่ชีกลับออกไปตามเส้นทางเดิม เสียงดังกังวานทำผมมองหาที่มา สันนิษฐานว่าคงเป็นเสียงหินร่วงลงมาจากบนภูเขา ผมเห็นร่องรอยของหินที่ตกลงมากระแทกหินในซอกเขาหน้าถ้ำจุดหนึ่งและยังเป็นรอยใหม่ๆ
การเดินทางขากลับของผมสวนทางกับผู้คนมากมาย ผมใช้เวลาตอนนั้นอยู่กับตัวเอง คิดทบทวนความผิดพลาดในปีที่ผ่านมา ประสบการณ์ในปีนี้ของผมเหมือนจะเป็นการยอมรับความจริงและอยู่กับมันให้ได้
แสงแดดจากปล่องเพดานถ้ำธารลอดใหญ่ ๑๓.๑๕ น. |
แสงแดดจากโพรงเหนือเพดานถ้ำ มีแดดสาดแสงส่งลงมาต้ององค์ พระพุทธรูปไม้ที่ประดิษฐานอยู่ถายในถ้ำธารลอดใหญ่ |
มันเป็นความจริงที่ว่าท้ายที่สุดของความพยายามอาจไม่ทำให้เราพบความงามอย่างที่ใจเราคิด แต่เป็นเพราะผมไม่ได้พกความคาดหวังมามากมายนัก และไม่ได้มาเพื่อพิชิตเป้าหมายแต่เลือกที่จะหยุดเก็บภาพความสวยงามของที่นี่มาตลอดเส้นทางที่เหนื่อยจนขาสั่นและบางครั้งก็ดูเงียบเหงา
๑๔.๐๐ น. ถ้าเกิดระหว่างทางที่ผมกำลังเดินกลับ มีคนขอคำแนะนำจากผมว่าเขาควรจะเดินต่อไปไหม ผมคงจะบอกเขาว่า ..ไปเถอะครับ ข้างบนสวยมาก...
บทสรุปของเส้นทางที่ผ่านมาผมรู้สึกเหมือนเวลาที่มีความรักแล้วความรักนั้นไม่เป็นไปอย่างที่เราตั้งใจ แต่ทว่าความรักนั้นยังคงอยู่ในใจและมันยังคงสวยงามอยู่เสมอ ซึ่งถ้าผมรู้คำตอบอย่างนี้ตั้งแต่แรก ผมก็จะยังเลือก
...ที่จะเดินไปเจอมันอยู่ดี